โมเสสได้ย้อนกลับไปเล่าถึงเรื่องราวที่คาเดชบารเนีย (กันดารวิถีบทที่ 13-14) สิ่งหนึ่งโมเสสยืนยันอีกครั้งคือ แผ่นดินที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราประทานแก่เรานั้น เป็นแผ่นดินที่ดี (ข้อ 25)

Read more

โมเสสบอกว่า ข้าพเจ้าผู้เดียวแบกท่านทั้งหลายไม่ไหว” (ข้อ 9)  และเรียกร้องให้คนอิสราเอลเลือกคนที่มีปัญญา เพื่อจะช่วยดูแลชนชาติของพระเจ้า ที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คุณจะนำมาใช้ในการรับใช้พระเจ้า และดูแลคริสตจักรอย่างไร? และถ้าพระเจ้าเลือกคุณให้มีส่วนในการดูแล หรือรับใช้ในคริสตจักร คุณจะเตรียมตัวอย่างไร?

บทนี้เป็นคำอธิษฐานของปวงชนทูลขอพระเจ้าให้ระลึกถึงความทุกข์ยากของพวกเขาและสารภาพ รอคอยพระกรุณาธิคุณ จากคำอธิษฐานนี้คุณได้ความเข้าใจเกี่ยวกับ 1) ความทุกข์ยากที่เผชิญ 2) การวางใจในพระเจ้า และ 3) การทูลขอที่ออกมาจากใจ อย่างไรบ้าง และคุณจะนำความเข้าใจเหล่านี้มาใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างไร?

กรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย และถูกเผาจนหมดสง่าราศี จากคุณค่าเทียบได้กับทองคำ มีค่าเพียงหม้อดินใบหนึ่ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความผิดบาปของพวกผู้เผยพระวจนะและพวกปุโรหิตด้วย ที่ปล่อยปะละเลยหน้าที่ของตนเอง จนประชาชนหลงจากทางของพระเจ้า ถ้าคุณเป็นผู้นำในคริสตจักร (ศิษยาภิบาล มัคนายก กรรมการกลาง ผู้นำกลุ่มเซล) คุณจะมีส่วนในการสอนพระวจนะของพระเจ้ากับสมาชิกในคริสตจักรอย่างไร?

ผู้เขียนได้สะท้อนถึงความทุกข์โศกเศร้าในใจด้วยคำว่า “น้ำตาไหล…เป็นแม่น้ำ” (ข้อ 48) “น้ำตาไหล…ไม่หยุด” (ข้อ 49) “นัยน์ตา….ระบม” (ข้อ 51) คำและท่าทีในใจแบบนี้ เป็นแบบอย่างให้คุณอย่างไร ในเวลาที่คุณจะกลับมาหาพระเจ้า เพราะได้กระทำความผิดบาป?

9010/9102