แม้ว่าเยเรมีย์จะถูกโยฮานัน อาซาริยาห์และพวกบังคับให้ไปอียิปต์ (ดู 43:5-6) แต่เยเรมีย์ยังคงประกาศพระวจนะ และหนุนใจประชาชนให้เชื่อฟังพระเจ้าไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม  ลองทบทวนชีวิตของคุณว่า คุณเป็นคริสเตียนแค่วันอาทิตย์วันเดียว หรือเป็นคริสเตียนที่สำแดงความเชื่อในทุก ๆ ที่ที่คุณอยู่ (บ้าน โรงเรียน ที่ทำงาน ฯลฯ)

โยฮานัน อาซาริยาห์และพวก ปฏิเสธคำสั่งของพระเจ้าที่มีผ่านทางเยเรมีย์ ซึ่งแตกต่างจากท่าทีที่เชื่อฟังพระเจ้าในบทที่ 42 อย่างชัดเจน คุณคิดว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เมื่อคุณบอกว่าจะแสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้า คุณจัดการกับความชอบส่วนตัวอย่างไร?

โยฮานันกลัวบาบิโลนจึงขอให้เยเรมีย์ทูลอ้อนวอนต่อพระเจ้าเพื่อทราบน้ำพระทัยพระองค์ พระเจ้าตรัสผ่านเยเรมีย์ว่าไม่ให้พวกเขาไปอียิปต์ (ที่ดูน่าจะปลอดภัยกว่า) คุณคิดว่า ทำไมพระเจ้าจึงไม่ให้พวกเขาไป? ความมั่นใจและสันติสุขของคุณขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม หรือความมั่นใจในพระเจ้าที่คุณเชื่อและไว้วางใจ

หลังจากที่อิชมาเอลฆ่าเกดาลิยาห์และคนที่อยู่กับเขาที่มิสปาห์แล้ว ก็เกิดการต่อสู้กับโยฮานันตามมา  นี่เป็นภาพของการแก่งแย่งกันเป็นใหญ่ ลองพิจารณาถึงสังคมยุคนี้ที่มีการแสวงหาผลประโยชน์และแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันอย่างมากมาย คุณจะดำเนินชีวิตในฐานะที่เป็นคริสเตียนในสภาวะแบบนี้ได้อย่างไร?

หลังกรุงเยรูซาเล็มแตก บาบิโลนนับยูดาห์เป็นแคว้นหนึ่งของบาบิโลนและตั้งเกดาลิยาห์เป็นผู้ว่าราชการบรรดาหัวเมืองยูดาห์ เกดาลิยาห์เลือกที่จะทำตามที่พระเจ้าบอก คือ ยอมจำนนต่อบาบิโลน (ข้อ 9-10) แต่สุดท้ายท่านก็ถูกฆ่าโดยอิชมาเอลที่ไม่เห็นด้วย คุณเคยมีประสบการณ์ที่ยอมทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เป็นอย่างที่คิด บางครั้งแย่ยิ่งกว่าเดิมอีกหรือไม่? และความเชื่อของคุณต่อพระเจ้าเป็นอย่างไร?