กรุงเยรูซาเล็มตอนนี้เปรียบเหมือนเมืองร้างที่ว่างเปล่า เหมือนกับผู้หญิงที่สูญเสียสามี เหมือนกับเจ้าสาวที่กลายมาเป็นทาส  เหมือนหญิงสาวที่ถูกทรยศจากคนรัก โดยมีสาเหตุสำคัญจากการที่คนยูดาห์ทรยศต่อพระเจ้า (ข้อ 22) ถ้าวันนี้คุณต้องทนทุกข์เพราะทำผิด ทำบาป หรือทรยศต่อความรักของพระเจ้า ใช้เวลานี้อธิษฐานขอการอภัย และการช่วยกู้จากพระเจ้า

บทที่ 52 เป็นบทขยายความประวัติศาสตร์เพื่อให้เห็นว่าคำพยากรณ์ของเยเรมีย์เป็นจริง เศเดคียาห์ได้กระทำความชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเจ้า เหมือนอย่างที่เยโฮยาคิมผู้เป็นบิดาได้กระทำ (ข้อ 2) และสุดท้ายเศเดดียาห์ต้องเห็นบุตรชายของตนถูกประหารต่อหน้าต่อตา (ข้อ 10) จุดจบของเศเคดียาห์เป็นบทเรียนสอนใจคุณและครอบครัวอย่างไร?

เยเรมีย์ได้เรียกร้องให้คนยูดาห์หนีออกจากบาบิโลน (ข้อ 45) ไม่ได้หมายความว่า ให้เป็นกบฏและต่อสู้ หนีกลับมาที่แผ่นดินยูดาห์ แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะรักษาชีวิตให้ห่างไกลจากรูปเคารพ จากความเชื่อของชาวบาบิโลน เหมือนที่พระเยซูคริสต์อธิษฐานเผื่อสาวกให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ ไม่ใช่ให้พระเจ้าพาสาวกออกจากโลกนี้ (ยอห์น 17) คุณจะป้องกันตัวเองอย่างไรจากคำสอนผิดๆ ที่อาจจะมีเข้ามาในชีวิต

พระเจ้าทรงบอกว่า รูปเคารพที่บาบิโลนเคารพนับถือ เป็นสิ่งของที่ไร้ค่า และต้องถูกทำลายในที่สุด  ทบทวนชีวิตของคุณว่า คุณมีรูปเคารพอะไรในชีวิต ที่คุณให้ความสำคัญกับมันมากกว่าพระเจ้าหรือไม่?  (เงิน ชื่อเสียง เกียรติยศ การงาน ความร่ำรวย ความรู้ หรือแม้แต่บุคคล)

แม้พระเจ้าจะทรงใช้บาบิโลนมาลงโทษคนยิว แต่ในขณะเดียวกันบาบิโลนก็ทำความผิดบาปมากมาย  ดังนั้นพระเจ้าจึงลงโทษบาบิโลนเช่นกัน คุณอาจจะได้ยินคำสอนที่ว่า “ทำความดีชดใช้ความผิดที่เคยทำ” แต่จากตัวอย่างของบาบิโลน เราพบความจริงว่า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งความบริสุทธิ์ และเที่ยงธรรม พระองค์ทรงรัก “คุณ” ที่เป็นคนบาป แต่ในขณะเดียวกัน พระองค์ทรงเกลียด “ความบาป” ที่คุณกระทำ ความจริงในเรื่องนี้ช่วยเหลือคุณอย่างไรในการดำเนินชีวิตคริสเตียน

9205/9290