เมื่อพบแล้วก็พามาที่เมืองอันทิโอก ท่านทั้งสองประชุมร่วมกับคริสตจักร
ตลอดหนึ่งปี และสั่งสอนคนจำนวนมาก และที่เมืองอันทิโอกนี่เอง
ที่พวกสาวกได้ชื่อว่าคริสเตียน*เป็นครั้งแรก

Q1 คำว่า “ประชุม” “ตลอดหนึ่งปี” “สั่งสอน” และ “สาวก” มีความเกี่ยวข้องกับการถูกเรียกชื่อว่า “คริสเตียน*” เป็นครั้งแรกอย่างไร? (ดู หมายเหตุ ประกอบ)
Q2 เมื่อคุณต้องแนะนำตนเองให้กับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนบ้าน หรือคนที่คุณมีโอกาสได้เจอเป็นครั้งแรกว่า “คุณเป็นคริสเตียน” คุณ “รู้สึก” อย่างไร? และคุณจัดการกับความรู้สึกนั้นอย่างไร? (ดู มัทธิว 10:32-33 ประกอบ)
หมายเหตุ: คริสเตียน* ในเวลานั้นผู้เชื่อพระเยซูเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เพราะเขามักจะพูดเรื่องพระเยซู หรือ “พระคริสต์” ตลอดเวลา คนทั้งหลายจึงเรียกผู้เชื่อเหล่านั้นว่า
“คริสเตียน”มัทธิว 10:32-3332 “เพราะฉะนั้นทุกคนที่จะรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราจะรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ 33 แต่ผู้ใดจะไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราก็จะไม่ยอมรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ด้วย


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 74-76  โรม 9:19-33

ทุกๆ วัน พวกเขาอุทิศตัวอยู่ด้วยกันในพระวิหาร และ1.หักขนมปัง*ตามบ้าน
ของพวกเขา 2.รับประทานอาหารร่วมกันด้วยความชื่นชมยินดีและจริงใจ
3.ทั้งสรรเสริญพระเจ้าและได้รับความชื่นชอบจากทุกคน องค์พระผู้เป็นเจ้า
4.ก็โปรดให้คนทั้งหลายที่กำลังจะรอด เพิ่มจำนวนเข้ามา*มากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน

Q1 เมื่อผู้ที่เชื่อมารวมตัวไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือในพระวิหารของพระเจ้า พวกเขาได้ “อุทิศตัว” กระทำ 4 สิ่งนี้เป็นประจำ คือ (ดู หมายเหตุ ประกอบ)
Q2 คุณจะ “อุทิศตัวกับคริสตจักร” เพื่อทำให้เป้าหมายของคริสตจักรที่ว่า “ใฝ่พระคำ ทำตามพระทัย ก้าวไปด้วยกัน” สำเร็จและเกิดผลในคริสตจักรพระคุณอย่างไร?
หมายเหตุ: หักขนมปัง* ในที่นี้หมายถึง พิธีมหาสนิทซึ่งจะกระทำก่อนที่จะรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในเวลานั้นเข้ามา* หมายถึง มีการประกาศ และมีคนเข้ามาเชื่อและต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดทุกวัน


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี: สดุดี 72-73  โรม 9:1-18

แล้วพระองค์ตรัสถามเขาทั้งหลายว่า “แล้วพวกท่านว่า เราเป็นใคร?”
ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์เป็นพระคริสต์* พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”

Q1 คำตอบของซีโมนเปโตร ที่บอกว่า พระเยซูทรงเป็น “พระคริสต์”* มีความสำคัญต่อการเป็นสาวกติดตามพระเยซูอย่างไร? (ดู หมายเหตุ และ ยอห์น 21:18-19 ประกอบ)
Q2 ถ้าวันนี้มีคนมาถามคุณว่า “พระเยซู” คือใครในชีวิตของคุณ? คุณจะตอบว่าอย่างไร? และทำไมคุณจึงตอบอย่างนั้น?
หมายเหตุ : “พระคริสต์”* เป็นภาษากรีกที่มีความหมายเดียวกับ “พระเมสสิยาห์” (พระผู้ช่วยให้รอด) ในภาษาฮีบรูนั่นเองยอห์น 21:18-1918 เราบอกความจริงกับท่านว่า เมื่อท่านยังหนุ่ม ก็คาดเอวของท่านเองและเดินไปไหนๆ ตามที่ท่านปรารถนา แต่เมื่อแก่แล้ว ท่านจะเหยียดมือออก และจะมีคนมาคาดเอวของท่าน และพาไปที่ที่ท่านไม่ปรารถนาจะไป” 19 (ที่พระองค์ตรัสอย่างนั้นก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า เปโตรจะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการตายแบบใด) เมื่อตรัสอย่างนั้นแล้ว พระองค์จึงตรัสกับเปโตรว่า “จงตามเรามาเถิด”


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 70-71 โรม 8:28-39

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเป็นศิลาและผู้ไถ่ของข้าพระองค์
ขอให้ถ้อยคำจากปากข้าพระองค์
และการภาวนาในใจเป็นที่โปรดปรานเฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด

Q1 “ถ้อยคำ” และ “การภาวนาในใจ” แบบไหนที่จะ “เป็นที่โปรดปราน” ในสายพระเนตรของพระเจ้า? (ดู สดุดี 66:18 ประกอบ)
Q2 คุณจะนำความจริงจากพระคัมภีร์ข้อนี้ใปใช้ใน “ชีวิตแห่งการอธิษฐาน” ของคุณกับพระเจ้าอย่างไร?
หมายเหตุ: สดุดี 66:18 ถ้าข้าพเจ้าได้บ่มความชั่วไว้ในใจ องค์เจ้านายจะไม่ทรงสดับ


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 68-69  โรม 8:1-27

เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเป็นคนดีพร้อม
@เหมือนอย่างที่พระบิดาของท่าน ผู้สถิตในสวรรค์ทรงดีพร้อม

Q1 ทำไมคริสเตียนจึงควรเป็น “ผู้ที่ดีพร้อม”? (สังเกตคำหลัง @)
Q2 คุณคิดว่า คุณจะเป็น “คนดีพร้อม”* เหมือนกับพระเจ้าพระบิดาในแง่มุมใดบ้าง? (ดู หมายเหตุ ประกอบ)
หมายเหตุ: คนดีพร้อม* ตรงนี้ไม่ได้หมายความว่า ไม่เคยกระทำผิดพลาดเลย แต่หมายความว่า การตระหนักรู้ว่า อะไรถูกอะไรผิด อะไรดีอะไรไม่ดี และตัดสินใจเลือกกระทำในสิ่งที่ถูก และสิ่งที่ดี และถ้าทำสิ่งใดผิดหรือไม่ดี ก็กลับใจ เลิกกระทำสิ่งเหล่านั้น หันกลับมาทำในสิ่งที่ถูกและสิ่งที่ดี


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 66-67  โรม 7

160/5318