พระเยซูทรงเป็นอีกผู้หนึ่งที่เผชิญหน้ากับการทดลองตลอดชีวิตแห่งการทำพันธกิจของพระองค์ และการทดลองที่หนักที่สุดของพระองค์คือ “การตายที่ไม้กางเขน” ซึ่งเราสามารถเห็นถึงความยากลำบากนี้จากคำพูดของพระองค์ที่ว่า “อับบา พระบิดาเจ้าข้า พระองค์อาจทรงกระทำสิ่งทั้งปวงได้ ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่ว่าอย่าให้เป็นตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์” (ข้อ 36) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบาก โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด”

Q1  อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้พระเยซูมีชัยชนะเหนือการทดลองจนสามารถพูดประโยคที่ว่า “แต่ว่าอย่าให้เป็นตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์”? (ดูข้อ 32, 35, 38, 39 ประกอบ)
Q2  คุณใช้เวลา “อธิษฐาน” สำหรับการทดลองที่คุณกำลังเผชิญหน้าอยู่มากน้อยแค่ไหน อ่านข้อ 38 อีกครั้ง และใช้เวลานี้อธิษฐานกับพระเจ้า

พระเยซูทรงถูกทดลองจากมารซาตานหลังจากที่พระองค์ทรงอดอาหารและน้ำเป็นเวลา 40 วัน จนอยู่ในสภาพที่หิวเป็นอย่างมาก (ข้อ 1-2) ซึ่งมารซาตานได้ใช้ช่วงเวลาที่ร่างกายของพระเยซูอ่อนแอที่สุด โดยคิดว่า มันจะสามารถทำให้พระเยซูพ่ายแพ้ต่อการทดลอง

Q1  พระเยซูคริสต์ทรงใช้อะไรในการต่อสู้กับมารซาตานจนได้รับชัยชนะในที่สุด? (ดูข้อ 4, 7, 10 ประกอบ)
Q2  คุณจะนำพระธรรมสดุดี 119:11ที่ว่า “ข้าพระองค์ได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อพระองค์” ไปใช้ในการต่อสู้ และมีชัยชนะเหนือการทดลองที่เข้ามาในชีวิตของคุณอย่างไร?

การทดลองไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น หรือมองเห็นได้ด้วยตาเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของสงครามฝ่ายจิตวิญญาณด้วย ดังนั้นถ้าเราต้องการที่จะมีชัยชนะเหนือการทดลอง เราจะต้องพึ่งพาพระเจ้าอย่างถึงที่สุด เหมือนกับที่ ฟีลิปปี 4:13 ที่บอกกับเราว่า “ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า”

Q1  เปาโลได้พูดถึงกฎ 2 อย่างที่อยู่ในตัวของท่าน อันที่จริงต้องบอกว่า อยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน กฎใดที่ทำให้เปาโล (มนุษย์) พ่ายแพ้ต่อการทดลอง?
Q2  พระเยซูคริสต์มีส่วนทำให้เปาโลมีชัยชนะเหนือการทดลองอย่างไร? และคุณจะนำบทเรียนชีวิตของเปาโลมาใช้ในชีวิตของคุณอย่างไร?

มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับความทดลอง สิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้เราพ่ายต่อการทดลองคือ “ความประมาท” เหมือนกับคำพูดที่เรามักจะได้ยินเสมอ ๆ ว่า “ความประมาทเป็นหนทางไปสู่ความตาย” เพราะศัตรูของเราคือ มารซาตานผู้เป็นเจ้าแห่งการทดลองนั้นน่ากลัวกว่าที่เราคิด เหมือนใน 1เปโตร 5:8 ที่บอกกับเราว่า “ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้”

Q1  “เหตุฉะนั้นคนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังให้ดี กลัวว่าจะล้มลง” (1 โครินธ์ 10:12)   ช่วยให้เราเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “ความประมาท” และ “การทดลอง” อย่างไร?
Q2  ลองนั่งลงทบทวนดูว่า คุณได้จัดการกับการทดลองที่เข้ามาในชีวิตอย่างไร? มีสิ่งใดที่ต้องระมัดระวัง และไม่ประมาทบ้าง เพื่อคุณจะไม่พ่ายแพ้ต่อการทดลองนั้น ๆ?

การทดลองความเชื่อเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะต้องเกิดขึ้นในชีวิตคริสเตียน เนื่องจากคริสเตียนเชื่อและติดตามพระเจ้าซึ่งเป็นชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ ทีไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นการดำเนินชีวิตของคริสเตียน จึงเป็นการดำเนินชีวิตโดยความเชื่อ เหมือนดั่งที่อัครทูตเปาโลบันทึกไว้ในพระคัมภีร์โรม.1:17 ว่า “เพราะว่าในข่าวประเสริฐนั้น ความชอบธรรมของพระเจ้าก็ได้สำแดงออก โดยเริ่นต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ คามทีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่ไดโดยความเชื่อ” ในสัปดาห์นี้เราจะมาเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับการทดลอง และวิธีการที่มีชัยชนะเหนือการทดลองที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม    1 โครินธ์ 10:13               “การทดลองไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด”

“ไม่มีการทดลองใดๆ ที่เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองที่เคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย
พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อทรงทดลองท่าน พระองค์ทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้”
(1 โครินธ์ 10:13)

Q1  คำว่า “ไม่มี“การทดลองใดๆ“เคยเกิดขึ้น“เกินกว่าท่านจะทนได้“หลีกเลี่ยงได้” และ “มีกำลังทนได้” ช่วยให้เห็นถึงธรรมชาติของการทดลองที่เกิดขึ้นในชีวิตของผู้ที่เชื่อในพระเจ้าอย่างไร?
Q2  คำว่า “พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม” “ไม่ทรงให้ท่าน” และ “ทรงโปรดให้ท่าน” หนุนใจคุณอย่างไรในการเผชิญหน้ากับการทดลองที่คุณมีอยู่วันนี้?

3270/5214