เปาโลได้ยกคำอุปมาเรื่องช่างปั้น เพื่อจะอธิบายให้เห็นถึง ความดีงามในสิทธิอำนาจ และความกว้างใหญ่ของพระคุณ ที่ไม่ได้ให้แค่คนยิวเพียงชนชาติเดียว แต่สำหรับทุกชนชาติ

Q1  อะไรคือ “ความดีงามในสิทธิอำนาจของพระเจ้า” (ดูข้อ 22, 23) และ “ความกว้างใหญ่ของพระคุณ” (ดูข้อ 24, 25) ?
Q2  การที่คุณรู้ว่า ชีวิตของคุณอยู่ในมือของพระเจ้า (ช่างปั้น) ที่เต็มไปด้วยความดีงาม และพระคุณ ช่วยให้คุณดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร แม้จะมีความสงสัยในบางเรื่องก็ตาม?

จากเนื้อหาในประวัติศาสตร์ในเรื่อง เอซาว กับ ยาโคบ อาจจะทำให้บางคนเกิดคำถามในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมา เพราะเป็นคำถามที่มีต่อพระเจ้า ซึ่งเปาโลก็ช่วยพูดออกมาดังๆ ในข้อ 14 ว่า “ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร พระเจ้าไม่ทรงยุติธรรมหรือ มิใช่เช่นนั้น”

Q1  คำตอบของเปาโล ช่วยให้เราเข้าใจถึงสิทธิอำนาจของพระเจ้า และความหมายของพระคุณมากขึ้นอย่างไร? (ดูข้อ 15, 16, 18 ประกอบ)
Q2  จากคำถาม และคำตอบของเปาโล ช่วยให้คุณเข้าใจ และซาบซึ้งถึงความหมายของพระคุณพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของคุณมากขึ้นอย่างไร?

บทที่ 1-8 เปาโลได้พยายามพูดถึงหลักคำสอนของข่าวประเสริฐกับผู้ที่เชื่อในกรุงโรม บทที่ 9 เปาโลเปลี่ยนมาพูดถึงคนยิวในฐานะประชากรของพระเจ้าว่า เป็นเรื่องจริง แต่มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า เพราะคนยิวส่วนใหญ่คิดว่า แค่เกิดเป็นชนชาติอิสราเอล ก็จะได้รับความรอดโดยอัตโนมัติ แต่ในเวลานั้นมีคนยิวบางคนมาเชื่อในพระเยซูคริสต์ ทำให้เปาโลต้องพูดเรื่องนี้ เพราะท่านมีความหวังว่า คนยิวทุกคนจะหันกลับมาเชื่อพระเยซูคริสต์ และได้รับความรอด

Q1  เปาโลยกตัวอย่างอะไรที่ชี้ให้เห็นว่า ความรอดไม่ได้มาตามสายเลือด (อิสราเอลแท้) แต่มาตามความเชื่อ ตามวิธีการของพระเจ้า? (ดูข้อ 8, 9, 10, 13 ประกอบ)
Q2  ถ้าคุณเป็นลูกหลานที่เกิดในครอบครัวคริสเตียน แม้ว่าคุณมาโบสถ์ตั้งแต่เด็ก เข้าชั้นเรียนรวีฯ แต่ยังไม่ได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ด้วยตัวของคุณเอง นั้นหมายความว่า คุณก็ยังไม่รอด ถึงเวลาหรือยังที่จะตัดสินใจด้วยตัวของคุณเอง? ถ้าคุณตัดสินใจต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดแล้ว เป็น คริสเตียนมาเป็นเวลานาน ลองทบทวนชีวิตของคุณว่า จุดศูนย์กลางในความมั่นใจในความรอดของคุณ ยังเป็นพระเยซูคริสต์อยู่หรือเปล่า หรือความมั่นใจในความรอดของคุณอยู่ที่ การมาโบสถ์เป็นประจำ การถวายทรัพย์ การรับใช้ การรับบัพติสมา การรับมหาสนิท?
หมายเหตุ :- เอซาวเป็นบุตรหัวปีและควรได้รับมรดกทั้งหมดและเป็นต้นตระกูลของชนชาติอิสราเอล แต่ยาโคบผู้เป็นน้องกลับกลายเป็นผู้รับพร และเป็นต้นตระกูลของชนชาติอิสราเอล

ซาโลมอนได้เปรียบเทียบความรักว่า เข้มแข็งอย่างความตาย ในหนังสือบทเพลงซาโลมอน 8:6 แต่ในพระคัมภีร์ตอนนี้เปาโลชี้ให้เห็นว่า ความรักของพระเยซูคริสต์นั้นทรงยิ่งใหญ่ และทรงพลังกว่าความรักที่ซาโมลอนได้พูดถึงเสียอีก

Q1  ความรักของพระเยซูคริสต์ทรงยิ่งใหญ่ และทรงพลังเหนือกว่าสิ่งใดบ้าง? (ดูข้อ 35, 38 ประกอบ)
Q2  ประโยคที่ว่า “แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ได้ทรงรักเราทั้งหลาย” เป็นกำลังใจ และแรงบันดาลใจให้คุณอย่างไรในการดำเนินชีวิต และเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา

คริสเตียนจำนวนมากมักจะใช้ข้อพระคัมภีร์ข้อ 28ก ที่ว่า “เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง” เพื่อหนุนใจกันและกัน โดยไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนักสำหรับ 28ข ที่ว่า “คือ คนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระสงค์ของพระองค์”

Q1  “คนที่รักพระองค์” = “คนที่ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” คือ คนที่จะได้รับผลดี ดังนั้นถ้าเราอยากได้รับผลดี นอกจากจะรักพระเจ้าแล้ว เราต้องรู้ว่า พระประสงค์ของพระองค์สำหรับคนที่รักพระองค์คือสิ่งใด ซึ่งเปาโลได้บอกถึงพระประสงค์ของพระเจ้าในพระคัมภีร์ตอนนี้อย่างน้อย 2 ประการคือ? (ดูข้อ 29, 30 ประกอบ)
Q2  คุณคิดว่า อะไรคือพระประสงค์ของพระเจ้าที่เรียกคุณให้เป็นบุตรของพระองค์?

3615/5213