เปาโลเป็นคนที่มองอะไรลึกซึ้ง เขามองเห็นว่า การกล่าวโทษซึ่งกันและกัน ไม่เพียงแต่จะทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ตัวของผู้ที่กล่าวโทษกลับกลายเป็น “หินสะดุด” ที่ทำให้ผู้ถูกกล่าวโทษ คิดในใจว่า ถ้าต้องเติบโตขึ้นในความเชื่อ แล้วมีชีวิตที่ทำร้ายคนอื่นแบบนี้ ฉันขอไม่เติบโตเสียดีกว่า ในขณะเดียวกันผู้ที่กล่าวโทษคนอื่น เมื่อไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงจากชีวิตของผู้ที่ถูกกล่าวโทษ ก็จะกล่าวโทษมากขึ้น จนทำให้ตนเองเป็น “หินสะดุดที่ก้อนโตมากขึ้น”
Q1 เปาโลได้ให้หลักการอย่างไร ที่จะไม่เป็น “หินสะดุด” ให้กับผู้อื่น? (ดูข้อ 13,16, 19, 22 ประกอบ)
Q2 “ฉะนั้นอย่าให้สิ่งที่ดีสำหรับท่าน เป็นข้อตำหนิติเตียนของผู้อื่นได้เลย” ช่วยลดขนาดการเป็นหินสะดุดในชีวิตของคุณให้น้อยลงได้อย่างไร?