สูจิบัตร : ประชุมนมัสการ วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2013
รายการประชุมนมัสการพระเจ้า
ประจำวันอาทิตย์ที่ : 22 กันยายน ค.ศ. 2013 เวลา : 10:30 น.
ผู้เล่นดนตรี : ทีมนมัสการ
ผู้นำประชุม : คุณพงศ์ชัย
ผู้เดินถุงถวาย : คุณนงค์ลักษณ์/คุณฑิฆัมพร
ผู้อ่านพระวจนะ : คุณสลินทิพย์
ผู้อธิษฐานเผื่อทรัพย์ : คุณอภิรดี
ผู้ต้อนรับ & ปฏิคม : คุณวรรณิษา/คุณรพีพรรณ
วันอังคารที่ 24 กันยายน สดุดี 42:3-4 “พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน”
3 ข้าพระองค์กินน้ำตาต่างอาหารทั้งวันคืน ขณะที่คนพูดกับข้าพระองค์วันแล้ววันเล่าว่า “พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน”
4 เมื่อข้าพระองค์ระบายความในใจออกมา ข้าพระองค์ระลึกถึงสิ่งเหล่านี้ได้ คือข้าพระองค์ไปกับประชาชนและนำเขาไปเป็นกระบวนแห่ถึงพระนิเวศของพระเจ้า
ด้วยเสียงโห่ร้องยินดีและเสียงเพลงโมทนาคือมวลชนกำลังมีเทศกาลฉลอง
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ สัก 2–3 รอบ จนจำเนื้อหาได้ คำว่า “พระเจ้าอยู่ที่ไหน” “ระลึกถึง” “พระนิเวศของพระเจ้า” และ “เทศกาลฉลอง” สะท้อนให้เห็นถึงสภาพจิตใจ และความหวังของคนที่ถูกจับเป็นเชลย ต่อพระนิเวศในกรุงเยรูซาเล็มอย่างไร?
Q2 ความปรารถนาและความหวังของผู้เขียนสดุดี หนุนใจคุณอย่างไรในการมานมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ที่จะมาถึงนี้?
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน สดุดี 42:1-2 “กระเสือกกระสน”
1 กวางกระเสือกกระสนหาลำธารที่มีน้ำไหลฉันใด ข้าแต่พระเจ้าจิตวิญญาณของข้าพระองค์ ก็กระเสือกกระสนหาพระองค์ฉันนั้น
2 จิตวิญญาณของข้าพระองค์กระหายหาพระเจ้า หาพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ เมื่อไรข้าพระองค์จะได้มาเห็นพระพักตร์พระเจ้า
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ สัก 2–3 รอบ จนจำเนื้อหาได้ ผู้เขียนได้ใช้สภาพของภูมิประเทศที่ดินแดนส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย และภาพการดำรงชีพของกวางที่ต้องหาน้ำดื่มมาอธิบายเปรียบเทียบภาพของฝ่ายจิตวิญญาณอย่างไรบ้าง?
Q2 ลองทบทวนชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของคุณว่า คุณเป็นเหมือนกับกวางที่กระหายหาน้ำในทุกๆ วัน หรือเหมือนกับอูฐที่อดน้ำได้เป็นเดือนๆ อธิษฐานขอพระเจ้าให้คุณมีจิตใจเหมือนผู้เขียนสดุดี
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน สดุดี 42 “กระหายหาพระเจ้า”
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ สัก 2–3 รอบเพื่อจะรู้ถึงความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ของผู้เขียนสดุดี โดยไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับบทเรียนอะไรบ้าง ค่อยๆ ปล่อยให้ความคิดของคุณไหลไปกับพระคำของพระเจ้าที่คุณได้อ่านไป
Q2 อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระคัมภีร์ตอนนี้
วันเสาร์ที่ 21 กันยายน มาระโก 4:1-20 “การเกิดผล”
ในการประกาศข่าวประเสริฐเรื่องราวของพระเจ้า เราทุกคนต่างก็คาดหวังว่า จะมีคนรับเชื่อในทุกๆ ครั้งที่เราประกาศ เราพยายามพาคนมางานประกาศที่คริสตจักร แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่ค่อยจะเกิดผล หรือบางครั้งมีคนรับเชื่อ เราต่างดีใจ แต่คนเหล่านั้นก็ไม่มาโบสถ์อีกเลย สิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกท้อแท้ใจและไม่อยากจะประกาศอีกต่อไป มาระโกบทที่ 4 จะทำให้มีมุมมองที่สมดุลเกี่ยวกับการประกาศ และการเกิดผล
Q1 พระคัมภีร์พูดถึงดิน 4 แบบ และการเกิดผล 4 แบบ คืออะไรบ้าง?
Q2 “ดินดี” หมายถึง “คนที่มีจิตใจที่เปิดออก และรับพระวจนะของพระเจ้าไว้” เราไม่มีทางรู้ว่า ใครบ้างที่จะเป็นดินดี ดังนั้นถ้าเราหยุดประกาศ การเกิดผลก็จะไม่เกิด แต่ถ้าเรายังประกาศต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ วันหนึ่งดินดีที่พระเจ้าเตรียมไว้ก็จะเกิดดอกออกผล อธิษฐานขอพระเจ้าเพิ่มเติมภาระใจในการประกาศให้กับคุณ