วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม ฮีบรู 13:1-19 “สิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย”
ผู้เขียนฮีบรูได้สรุปในบทสุดท้ายของหนังสือ โดยให้เราทั้งหลายที่เป็นผู้ที่เชื่อตระหนักว่า พระเยซูคริสต์ยังทรงเป็นเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ และเวลาวันนี้ และต่อๆ ไปเป็นนิจกาล (ข้อ 8) ดังนั้นจงดำเนินชีวิตให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
Q1 สิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยมีอะไรบ้าง? (สังเกตคำว่า “จง” และ “อย่า” ที่ปรากฏในพระคัมภีร์ตอนนี้)
Q2 ในชีวิตของคุณ คุณได้ปฏิบัติตามคำว่า “จง” และ “อย่า” ที่พระเจ้าทรงพอพระทัยอะไรบ้าง?
วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม ฮีบรู 12:3-11 “การตีสอน”
ผู้เขียนฮีบรูได้บอกความจริงที่สำคัญสำหรับเราทั้งหลายอีกเรื่องหนึ่งคือ เราไม่เพียงแต่เป็นชนชาติของพระเจ้า หรือผู้ที่เชื่อพระเจ้าเท่านั้น แต่เรายังเป็น “บุตรของพระเจ้า” ด้วย และแน่นอนว่า ถ้าบุตรทำผิด ผู้เป็นบิดาย่อมจะสั่งสอน ตักเตือนว่ากล่าว รวมถึงลงโทษด้วยในบางครั้ง
Q1 พระเจ้าทรงมีเป้าหมายในการตีสอนเราทั้งหลายที่เป็นบุตรอย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 10-11 ประกอบ)
Q2 คุณเคยถูกพระเจ้าตีสอนในเรื่องใดบ้าง และตอนนี้ผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร?
วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม ฮีบรู 11:1-39 “ความเชื่อ”
ผู้เขียนฮีบรูได้เริ่มต้นด้วยการให้คำจำกัดความของความเชื่อไว้อย่างน่าสนใจ โดยบอกว่า “ความเชื่อ คือ ความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่เห็นนั้นมีจริง” และได้ยกตัวอย่างบุคคลที่มีความเชื่อมากมายในพระคัมภีร์เดิม และจบลงด้วย “คนเหล่านั้นทุกคนมีชื่อเสียงดีเพราะความเชื่อ แต่เขาก็ยังไม่ได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้”
Q1 ลองนับดูว่า มีชื่อคนกี่คนที่ผู้เขียนฮีบรูเรียกพวกเขาว่า เป็นบุคคลแห่งความเชื่อ?
Q2 ลองทบทวนชีวิตของคุณว่า คุณเริ่มต้นด้วยความเชื่อกับพระเจ้าอย่างไร และคุณจะจบความเชื่อของพระเจ้าด้วยชื่อเสียงที่ดีได้อย่างไร?