ในข้อ 23-39 กล่าวถึง 4 ประเทศในขณะนั้น คือ เมืองดามัสกัส (ปัจจุบันคือประเทศซีเรีย) เผ่าเคดาร์ ราชอาณาจักรฮาโซร์ (อาณาจักรอาหรับ) และเมืองเอลาม (ปัจจุบันคือประเทศอิหร่าน) พระเจ้าทรงเป็นผู้กระทำให้เมืองเหล่านี้ถึงจุดจบล่มสลาย (ข้อ 26, 27, 29, 32-33) ในขณะเดียวกัน พระองค์ก็ทรงเป็นผู้ให้กลับคืนสู่สภาพดี (ข้อ 39) ความจริงในเรื่องนี้ ช่วยให้คุณรู้จักพระเจ้ามากขึ้นในแง่มุมใด?

เนื้อหาในบทที่ 49 เป็นคำพยากรณ์เกี่ยวกับคนอัมโมน (ปัจจุบันเป็นเขตหนึ่งของประเทศจอร์แดน) และเมืองเอโดม พระคัมภีร์ตอนนี้เปรียบคนเอโดมเสมือนนกอินทรีย์ที่ทำรังอยู่ในที่สูงแสดงว่าพวกเขามีท่าทีอย่างไร? (ดูข้อ 7,16 ประกอบ) ความสามารถและสติปัญญาเป็นสิ่งที่ดี  แต่เราควรจะใช้มันเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเพื่อผลประโยชน์ของคนอื่น มากกว่าตัวเองเพียงฝ่ายเดียว

คนโมอับมีลักษณะที่เด่นชัดอย่างหนึ่งคือ “ความโอหัง” (การยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง) แต่สุดท้ายเราก็พบว่า โมอับก็ล้มลงในที่สุด  มีสิ่งใดในชีวิตของคุณที่หยิ่งผยอง โอหัง และทำให้คุณมองคนอื่นต่ำกว่า อธิษฐานขอพระเจ้าทรงปลดปล่อยคุณ และให้คุณมีความถ่อมใจมากพอที่จะยอมรับผู้อื่น

บทที่ 48 เป็นคำพยากรณ์เกี่ยวกับโมอับ (ปัจจุบันเป็นเขตหนึ่งในประเทศจอร์แดน) เนโบ เคริยาธิอิม เฮชโมน มัคเมน โฮโรนาอิม เป็นเมืองต่างๆของโมอับ เราพบว่า คนโมอับวางใจในทรัพย์สมบัติ (ข้อ 7) แสวงหาความสบาย (ข้อ 11) คิดว่าตัวเองเป็นวีรชน (ข้อ 14) แต่สุดท้ายทุกอย่างที่เขาไว้วางใจก็ไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาให้รอดพ้นจากการพิพากษาได้ สิ่งนี้สอนใจคุณอย่างไร?

เนื้อหาในบทที่ 47 กล่าวถึงฟิลิสเตีย (ปัจจุบันคือชาวปาเลสไตน์) ที่จะถูกทำลายโดยอียิปต์ -ในสมัยฟาโรห์เนโคในปี 609 ก่อนคริสตกาล  พระเจ้าไม่เป็นเพียงแค่พระเจ้าของอิสราเอลเท่านั้น แต่เป็นพระเจ้าสำหรับทุกชนชาติ  ความจริงเรื่องนี้ช่วยให้คุณมีความเชื่อ และเติบโตขึ้นกับพระเจ้าอย่างไรบ้าง?

8440/8519