วันพุธที่ 13 กันยายน 1 เธสะโลนิกา 2:4 “ท่าทีในการประกาศ”
แต่ว่า1.พระเจ้าทรงเห็นชอบที่จะมอบข่าวประเสริฐไว้กับเรา
เราจึงประกาศไป 2.ไม่ใช่เพื่อให้เป็นที่พอใจของมนุษย์
3.แต่ให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า ผู้ทรงชันสูตรใจเรา
Q1 เปาโลมี “ท่าที” ในการ “ประกาศข่าวประเสริฐ” อย่างไร?
Q2 คุณจะนำ “ท่าที” ในการประกาศข่าวประเสริฐของเปาโลมาใช้ในการประกาศกับคนที่คุณรู้จักอย่างไร? (ดู โรม 10:14 ประกอบ)
หมายเหตุ: โรม 10:14 แต่พวกที่ยังไม่เชื่อในพระองค์ จะทูลขอต่อพระองค์ได้อย่างไร? และพวกที่ยังไม่ได้ยินถึงพระองค์ จะเชื่อในพระองค์ได้อย่างไร? และเมื่อไม่มีผู้ประกาศ เขาจะได้ยินถึงพระองค์อย่างไร?
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี: สุภาษิต 16-18 2 โครินธ์ 6
วันอังคารที่ 12 กันยายน 2 ทิโมธี 3:16-17 “พระคัมภีร์”
พระคัมภีร์ ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า
และเป็นประโยชน์ใน1.การสอน 2.การตักเตือนว่ากล่าว 3.การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี
และ4.การอบรมในทางธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะ5.กระทำการดีทุกอย่าง
Q1 เปาโลได้บอกกับทิโมธีถึงประโยชน์ของ “พระคัมภีร์” ซึ่งเป็นพระวจนะของพระเจ้า 5 ประการคืออะไรบ้าง?
Q2 ชีวิตของคุณ “ถูกเปลี่ยนแปลง” โดย “พระคัมภีร์” ซึ่งเป็นพระวจนะของพระเจ้าอย่าง ไร? ลองเขียนออกมาสัก 2 เรื่อง อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี: สุภาษิต 13-15 2 โครินธ์ 5
วันจันทร์ที่ 11 กันยายน สุภาษิต 29:11 “ความโกรธ”
คนโง่ย่อมให้ความโกรธของเขาพลุ่งออกมาเต็มที่
แต่ปราชญ์ย่อมยับยั้งโทสะไว้เงียบๆ
Q1 คำว่า “พลุ่งออกมาเต็มที่” แสดงให้เห็นถึง “ความโง่เขลา” และคำว่า “ยับยั้งโทสะไว้เงียบๆ” แสดงให้เห็นถึง “ความเป็นปราชญ์” (มีสติปัญญา) อย่างไร? (ดู สุภาษิต 17:27-28 ประกอบ)
Q2 คุณจะนำพระคัมภีร์ข้อนี้ไปใช้ในการควบคุม “ความโกรธ” อย่างไร? (ดู เอเฟซัส 4:26 ประกอบ)
หมายเหตุ: สุภาษิต 17:27-28 27 บุคคลที่ยับยั้งถ้อยคำของเขาเป็นคนมีความรู้ และบุคคลผู้มีจิตใจเยือกเย็นเป็นคนมีความเข้าใจ 28แม้คนโง่หากนิ่งเสียก็นับว่ามีปัญญา เมื่อเขาปิดปากของตนก็นับว่ามีความคิดเอเฟซัส 4:26 จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี: สุภาษิต 10-12 2 โครินธ์ 4
วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน สดุดี 118:24 “วันสะบาโต”
นี่เป็นวันซึ่งพระเจ้าได้ทรงสร้าง ให้เรา1.เปรมปรีดิ์และ2.ยินดีในวันนั้น
Q1 พระเจ้าไม่ได้ “สร้างวันสะบาโต” เพื่อผลประโยชน์ของพระองค์เอง แต่เพื่อผลประโยชน์ของทุกคนที่เข้ามาหาพระองค์ในวันสะบาโต คืออะไรบ้าง?
Q2 พระคัมภีร์ข้อนี้จะเป็นจริงในชีวิตของคุณได้อย่างไร? (โดยเฉพาะในวันนี้ซึ่งเป็นวันอาทิตย์) ดู สดุดี 27:4 ประกอบ
หมายเหตุ: สดุดี 27:4 ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระยาห์เวห์ ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหา คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระยาห์เวห์ และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี: สุภาษิต 8-9 2 โครินธ์ 3
วันเสาร์ที่ 9 กันยายน มัทธิว 15:8 “หาประโยชน์มิได้”
ประชาชนนี้1.ให้เกียรติเราแต่ปาก 2.ใจของเขาห่างไกลจากเรา
เขานมัสการ**เราโดยหาประโยชน์มิได้
ด้วย3.เอาบทบัญญัติของมนุษย์มาตู่ว่าเป็นพระดำรัสสอนของพระเจ้า
Q1 มี 3 สิ่งที่ทำให้ การนมัสการ** พระเจ้ากลายเป็นสิ่งที่ “หาประโยชน์มิได้” (ไร้ค่า) คืออะไรบ้าง?
Q2 คำว่า “แต่ปาก” “ห่างไกล” และ “มาตู่ว่า” กำลังเตือนสติคุณเกี่ยวกับ “การดำเนินชีวิตของคุณ” ให้สมกับเป็นลูกของพระเจ้าอย่างไร? (ดู 1 ยอห์น 3:9-10 ประกอบ)
หมายเหตุ: นมัสการ** ในที่นี้หมายถึง “การดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นลูกของพระเจ้า”1 ยอห์น 3:9-109 ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้นและเขาทำบาปไม่ได้ เพราะเขาเกิดจากพระเจ้า 10 เช่นนี้แหละ จึงเห็นได้ว่าใครเป็นลูกของพระเจ้า และใครเป็นลูกของมาร คือผู้ที่ไม่ได้ประพฤติชอบ และไม่รักพี่น้องของตน ก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี: สุภาษิต 6-7 2 โครินธ์ 2