ต้นหญ้าก็เหี่ยวแห้ง และดอกไม้ก็ร่วงโรย
@แต่พระวจนะพระเจ้าของเราจะยั่งยืนเป็นนิตย์

Q1 ทุกอย่างในโลกนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไป สูญหายไป แต่มีหนึ่งอย่างที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหรือสูญหายไปคืออะไร? (สังเกตคำหลังคำว่า “แต่”)
Q2 พระคัมภีร์ข้อนี้ช่วยให้คุณเห็นถึง “ความสำคัญของพระคัมภีร์” อย่างไร? ถึงเวลาหรือยังที่คุณจะสนใจ และเอาใจใส่ในการศึกษาพระวจนะของพระเจ้าเพิ่มมากขึ้น (ดู มัทธิว 4:4 ประกอบ)
หมายเหตุ: มัทธิว 4:4 พระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’”


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  เพลงซาโลมอน 4-5 กาลาเทีย 3

จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว

Q1 พระคัมภีร์ข้อนี้ “สอดคล้อง” หรือ “ขัดแย้ง” กับสังคมไทยของเราในเรื่องที่ “ยอมรับ” การโกหกได้ถ้าเป็น “โกหกสีขาว” (โกหกเพื่อความสบายใจ/ไม่ได้โกหกเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง)?
Q2 คุณจะหลีกเลี่ยง หรือป้องกันตัวเอง เพื่อคุณจะะไม่กลายเป็นคนที่ “พูดโกหกจนติดปาก” อย่างไร? (ดู ยากอบ 3:9-10 ประกอบ)
หมายเหตุ: ยากอบ 3:9-109 เราสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดาด้วยลิ้นนั้น และเราก็แช่งด่ามนุษย์ผู้ที่พระเจ้าทรงสร้างตามพระฉายาของพระองค์ด้วยลิ้นนั้น 10 คำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมาจากปากเดียวกัน พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนั้น


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  เพลงซาโลมอน 1-3  กาลาเทีย 2

แต่ข้าพเจ้ากลัวว่า งูนั้นล่อลวงนางเอวาด้วยอุบายของมันอย่างไร
ความคิดของท่านทั้งหลายก็จะถูกทำ1.ให้หลงไปจากความซื่อ
และ2.ความบริสุทธิ์ต่อพระคริสต์อย่างนั้น

Q1 อะไรคือ “เป้าหมาย” ของมารซาตาน (งู) ที่วาง “อุบาย” กับผู้ที่เชื่อในพระเจ้า?
Q2 คุณกำลังเผชิญหน้ากับ “อุบาย” / “การล่อลวง” ของมารซาตานในเรื่องใดบ้าง?  อธิษฐานขอสติปัญญา และกำลังจากพระเจ้าที่จะต่อสู้และมีชัยชนะเหนืออุบาย และการล่อลวงเหล่านั้น (ดู 1 โครินธ์ 10:13 ประกอบ)
หมายเหตุ: 1 โครินธ์ 10:13 ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย นอกเหนือการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะไม่ทรงให้พวกท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อถูกทดลอง พระองค์จะทรงให้มีทางออกด้วย เพื่อพวกท่านจะมีกำลังทนได้


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  ปัญญาจารย์ 10-12  กาลาเทีย 1

เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเลียนแบบของพระเจ้า ให้สมกับเป็นบุตรที่รัก

Q1 คำว่า “เลียนแบบของพระเจ้า” และ “สมกับเป็นบุตรที่รัก” เกี่ยวข้องกับ “ความคาดหวัง” ของเปาโลที่มีต่อผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ทุกคนอย่างไร?
Q2 คุณจะดำเนินชีวิตให้สมกับ “การเป็นบุตรของพระเจ้า” อย่างไร? (ดู เอเฟซัส 5:8-10 ประกอบ)
หมายเหตุ: เอเฟซัส 5:8-108 เพราะเมื่อก่อนท่านทั้งหลายเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างคนของความสว่าง 9 (เพราะว่าผลของความสว่างคือทุกอย่างที่เป็นความดี ความชอบธรรม และความจริง) 10 จงค้นดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  ปัญญาจารย์ 7-9   2 โครินธ์ 13

ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักกันและกัน @เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า
และทุกคนที่รักก็เกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า
ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก

Q1 อะไรที่เป็นเคล็ดลับที่ทำให้เราที่เป็นผู้ที่เชื่อ “รักคนอื่นได้” แม้บางครั้งคนเหล่านั้นอาจจะไม่น่ารักสักเท่าไร? (สังเกตคำหลังคำว่า “เพราะว่า”)
Q2 คุณจะ “สำแดงความรักของพระเจ้า” ผ่านไปยังคนที่อยู่รอบๆ ข้างชีวิตของคุณอย่างไร? ลองเขียนออกมาสัก 2 เรื่อง (ดู 1 ยอห์น 4:11-12 ประกอบ)
หมายเหตุ: 1 ยอห์น 4:11-1211 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราอย่างนั้น เราก็ควรจะรักกันและกันด้วย 12 ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า ถ้าเรารักกันและกัน พระเจ้าก็สถิตอยู่ในเรา และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  ปัญญาจารย์ 4-6  2 โครินธ์ 12

100/5305