อย่าให้คนที่ถูกล่อลวงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงล่อลวงข้าพเจ้า”
เพราะว่า1.พระเจ้าจะไม่ถูกความชั่วล่อลวง และ2.พระองค์เองก็ไม่ทรงล่อลวงใครเลย

Q1 หลายๆ ครั้งคริสเตียนมักจะ “โทษคนอื่น” หรือ “โทษพระเจ้า” เมื่อพลาดพลั้งกระทำความผิดบาป แต่ยากอบไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดแบบนี้ โดยให้เหตุผลอย่างน้อย 2 ประการ คืออะไรบ้าง?
Q2 เวลานี้คุณกำลัง “กล่าวโทษพระเจ้า” และ “หลงทาง” ในเรื่องใด ใช้เวลานี้อธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้า เพื่อคุณจะมีชัยชนะ และกลับมาเดินในทางที่ถูกต้อง (ดู ยากอบ 1:16-18 ประกอบ)
หมายเหตุ: ยากอบ 1:16-18 16 พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า อย่าถูกหลอกเลย 17 ของประทานที่ดีและเลิศทุกอย่างนั้นมาจากเบื้องบน คือมาจากพระผู้สร้างแห่งบรรดาดวงสว่าง ในพระองค์ไม่มีการแปรปรวนหรือเงาของการเปลี่ยนแปลง 18 เมื่อตั้งพระทัยแล้ว พระองค์ทรงให้เราบังเกิดด้วยพระวจนะแห่งความจริง เพื่อให้เราเป็นผลิตผลแรกของสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงสร้าง


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 146-147  1 โครินธ์ 15:1-34

เพราะว่าอวัยวะที่น่าดูแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องตกแต่งอีก แต่พระเจ้า
ทรงจัดวางร่างกาย โดยการประทานเกียรติมากยิ่งขึ้นแก่อวัยวะที่ต่ำต้อย
1.เพื่อไม่ให้มีการแตกแยกกันในร่างกาย
แต่ให้อวัยวะต่างๆ
2.มีความห่วงใยแบบเดียวกันต่อกันและกัน

Q1 ถึงแม้ว่า เปาโลจะเปรียบเทียบเราแต่ละคนในคริสตจักร เป็นเหมือนกับอวัยวะของร่างกายที่มีความแตกต่างกันแต่อวัยวะทุกส่วนต่างมี “เป้าหมาย” เหมือนกันอย่างน้อย 2 ประการคืออะไรบ้าง?
Q2 คุณจะมีส่วนทำให้ “เป้าหมาย” ทั้ง 2 ประการ เกิดขึ้นในคริสตจักรพระคุณอย่างไร? เขียนสิ่งที่คุณจะทำออกมาสัก 2 เรื่อง (ดู ฟีลิปปี 2:4-5 ประกอบ)
หมายเหตุ: ฟีลิปปี 2:4-54 อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆ ด้วย 5 จงมีจิตใจเช่นนี้ในพวกท่านเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 143-145  1 โครินธ์ 14:26-40

พระเยซูตรัสกับนาง(มารธา)ว่า
“เราบอกเธอแล้วไม่ใช่หรือว่า ถ้าเธอเชื่อ ก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า*?”

Q1 มารธาได้ “เห็น” ถึง “ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า” ในเรื่องใด? (ดู ยอห์น 11:43-44 ประกอบ)
Q2 ลองทบทวนชีวิตที่ผ่านมาว่า คุณได้ “เห็น” ถึง “ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า” ในเรื่องใดบ้าง ลองเขียนออกมาสัก 2 เรื่อง? อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับ “ความยิ่งใหญ่” เหล่านั้น
หมายเหตุ: ยอห์น 11:43-4443 เมื่อตรัสอย่างนั้นแล้ว พระองค์ทรงร้องเสียงดังว่า
“ลาซารัส ออกมาเถิด” 44 คนตายนั้นก็ออกมา มีผ้าพันมือและเท้า และที่หน้าก็มีผ้าพันอยู่ด้วย พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “จงแกะผ้าที่พันออกแล้วปล่อยเขาเถิด”


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 140-142  1 โครินธ์ 14:1-25

และถ้าคนหนึ่งเอาชนะคนคนเดียวได้ คนสองคนย่อมต่อต้านเขาได้แน่ 
เชือกสามเกลียว*จะขาดง่ายก็หามิได้

Q1 คำว่า “ได้” กับ “ได้แน่” เกี่ยวข้องกับ “การร่วมมือกัน” ในการ “ต่อสู้” กับปัญหา / อุปสรรค / ศัตรู ที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างไร? (ดู ปัญญาจารย์ 4:9-10 ประกอบ)
Q2 “เชือกสามเกลียว*จะขาดง่ายก็หามิได้” จะเป็นจริงในชีวิตของคุณ และในคริสตจักรพระคุณอย่างไร? (ดูหมายเหตุ และ สุภาษิต 11:14 ประกอบ)
หมายเหตุ: ปัญญาจารย์ 4:9-10 9 สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับรางวัลดีสำหรับการตรากตรำของพวกเขา 10 เพราะว่าถ้าพวกเขาล้มลง คนหนึ่งจะได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง และไม่มีใครพยุงเขาให้ลุกขึ้น
เชือกสามเกลียว* หมายถึง “การร่วมมือกัน จะทำให้มีพลังมากกว่าทำงานคนเดียว” เหมือนเชือกที่มีสามเกลียวย่อมแข็งแรงกว่าเชือกเกลียวเดียวสุภาษิต 11:14 เมื่อไม่มีการชี้แนะ ประชาชนก็ล้มลง แต่โดยมีที่ปรึกษามาก ก็มีความปลอดภัย


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 137-139  1 โครินธ์ 13

แม้ข้าพเจ้าจะเผยพระวจนะได้ จะรู้ความล้ำลึกทุกอย่างและมีความรู้ทั้งสิ้น
และแม้จะมีความเชื่อมากยิ่งที่จะย้ายภูเขาไปได้ @แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย

Q1 อะไรคือ “สิ่งสำคัญ” ที่ทำให้ “การเผยพระวจนะ” “การเข้าใจและมีความรู้” และ “ความเชื่อ” เป็นสิ่งมีคุณค่า? (สังเกตคำหลังคำว่า “แต่” และ ดู 1 โครินธ์ 13:13 ประกอบ)
Q2 คุณจะใช้นำ “เคล็ดลับ” ของเปาโลมาใช้ในการดำเนินชีวิตคริสเตียนอย่างไร? (ดู กาลาเทีย 5:6 ประกอบ)
หมายเหตุ: 1 โครินธ์ 13:13 และบัดนี้ ทั้งสามสิ่งนี้ยังดำรงอยู่ คือความเชื่อ ความหวัง และความรัก แต่ความรักนั้นใหญ่ที่สุดในสามสิ่งนี้กาลาเทีย 5:6 เพราะว่าในพระเยซูคริสต์นั้น การเข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัตไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่ความเชื่อซึ่งแสดงออกเป็นการกระทำด้วยความรักนั้นสำคัญ


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 135-136  1 โครินธ์ 12

130/5316