ลูกเอ๋ย จงกินน้ำผึ้ง เพราะเป็นของดี อันน้ำผึ้งที่หยดจากรวงนั้นมีรสหวานแก่
ลิ้นของเจ้า  จงรู้เถิดว่าปัญญาก็เป็นเช่นนั้นแก่วิญญาณของเจ้า

ถ้าเจ้าพบปัญญาก็จะ1.มีอนาคต และ2.ความหวังของเจ้าจะไม่สลาย

Q1 ผู้เขียนสุภาษิตเปรียบเทียบ “ปัญญา” เหมือนกับน้ำผึ้งที่เป็น “ของดี” และ “มีรสหวาน” และยืนยันว่า คนที่ค้นพบ “ปัญญา” จะค้นพบสิ่งใดบ้าง?
Q2 อะไรคือ “สติปัญญาฝ่ายจิตวิญญาณ” ที่คุณยังขาดอยู่? อธิษฐานทูลขอจากพระเจ้า (ดู ยากอบ 1:5 ประกอบ)
หมายเหตุ: ยากอบ 1:5 แต่ถ้าใครในพวกท่านขาดสติปัญญา ให้คนนั้นทูลขอจากพระเจ้าผู้ประทานให้กับทุกคนด้วยพระทัยกว้างขวางและไม่ทรงตำหนิ แล้วเขาก็จะได้รับตามที่ทูลขอ


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี: สดุดี 113-115 1 โครินธ์ 6

พระยาห์เวห์ทรงเป็นความสว่างและความรอดของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใดเล่า? พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่ง
แห่งชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะเกรงผู้ใดเล่า?

Q1 คำว่า “เป็นความสว่าง” “เป็นความรอด” และ “เป็นที่กำบัง” เกี่ยวข้อง “ความหวาดกลัว” ของผู้เขียนสดุดีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ “ศัตรู” อย่างไร?
Q2 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ พระเจ้าจะมีส่วนช่วยให้คุณเผชิญหน้ากับ “ความหวาดกลัว” หรือ “ศัตรู” ที่มีอยู่ในชีวิตของคุณอย่างไร?


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 110-112 1 โครินธ์ 5

เราสั่งเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าครั่นคร้ามหรือตกใจเลย
เพราะว่า@พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าสถิตกับเจ้าทุกแห่งที่เจ้าไป”

Q1 อะไรคือ “เหตุผล” ที่ทำให้เราที่เป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้ามี “ความเข้มแข็ง” และ “ความกล้าหาญ” พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา? (สังเกตคำหลังคำว่า “เพราะว่า”)
Q2 อ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ช้าๆ 2-3 รอบอีกครั้ง คุณจะนำพระคัมภีร์ข้อนี้ไปใช้ในการ “เผชิญหน้า” กับทุกๆ ปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณอย่างไร?


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 107-109  1 โครินธ์ 4

สำหรับข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้
1.เป็นผู้ประกาศ 2.เป็นอัครทูต และ3.เป็นอาจารย์

Q1 เปาโลได้รับมอบหมาย “หน้าที่” ให้รับผิดชอบเกี่ยวกับ “ข่าวประเสริฐ” ใน 3 บทบาทคืออะไรบ้าง?
Q2 “สำหรับข่าวประเสริฐนั้น” พระเจ้าทรงแต่งตั้งให้คุณทำบทบาทหน้าที่อะไร? และคุณได้ทำบทบาทหน้าที่นั้นอย่างไร? (ดู กิจการ 1:8 ประกอบ)
หมายเหตุ: กิจการ 1:8 แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  สดุดี 105-106 1 โครินธ์ 3

แล้วพระองค์ตรัสกับโธมัสว่า “เอานิ้วของท่านแยงที่นี่ และดูที่มือของเรา
ยื่นมือของท่านออกมาคลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยเลย แต่จงเชื่อ”

Q1 การที่พระเยซูคริสต์บอกให้โธมัส “ยื่นนิ้วออกมาแยง และดูที่มือ” “คลำที่สีข้าง” ของพระองค์ มีส่วนช่วยทำให้โธมัสมี “ความเชื่อ” ได้อย่างไร? (ดู ยอห์น 20:25 ประกอบ)
Q2 คุณไม่มีโอกาสได้สัมผัสที่มือ และสีข้างของพระเยซูคริสต์เหมือนกับโธมัส แต่ทำไมคุณยังเชื่อ ไว้วางใจ และต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ? หลังจากที่คุณหาคำตอบให้กับตัวเองได้ อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับ “ความเชื่อ” ที่คุณมีในพระองค์
หมายเหตุ: ยอห์น 20:25 สาวกคนอื่นๆ จึงบอกโธมัสว่า “เราเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” แต่โธมัสตอบพวกเขาว่า “ถ้าข้าไม่เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ของพระองค์ และไม่ได้เอานิ้วของข้าแยงเข้าไปที่รอยตะปูนั้น และไม่ได้เอามือของข้าแยงเข้าไปที่สีข้างของพระองค์แล้ว ข้าจะไม่เชื่อเลย”


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี: สดุดี 103-104  1 โครินธ์ 2

145/5318