10 อันความทุกข์ของคนอธรรมนั้นมีมาก แต่ความรักมั่นคงจะล้อมบุคคลที่วางใจในพระเจ้า
11 ข้าแต่คนชอบธรรม จงยินดีในพระเจ้าและเปรมปรีดิ์ บรรดาท่านผู้มีใจเที่ยงตรง จงโห่ร้องเถิด

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า “ความทุกข์” “คนอธรรม” “ความรัก” “คนที่ไว้วางใจ” “คนชอบธรรม” “ยินดีในพระเจ้า” “เปรมปรีดิ์” และ“โห่ร้อง” คำเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นถึงความแตกต่างในชีวิตระหว่างคนที่เชื่อพระเจ้า และคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าอย่างไร?
Q2  “จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด” ฟีลิปปี 4:4 พระคัมภีร์ข้อนี้จะเป็นจริงในชีวิตของคุณอย่างไร?

8 เราจะแนะนำและสอนเจ้าถึงทางที่เจ้าควรจะเดินไป เราจะให้คำปรึกษาแก่เจ้าด้วยจับตาเจ้าอยู่
9 อย่าเป็นเหมือนม้าหรือล่อ ที่ปราศจากความเข้าใจ ซึ่งต้องติดสายผ่าปากและบังเหียน มิฉะนั้นมันก็ไม่ไปกับเจ้า

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า “แนะนำ” “สอน” “คำปรึกษา” “ทาง” “ควรจะเดินไป” “อย่าเป็นเหมือนม้าหรือล่อ” “ปราศจากความเข้าใจ” และ “บังเหียน” คำเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นถึงวิธีการที่พระเจ้าจะช่วยเหลือผู้ที่เชื่อในยามที่เผชิญหน้ากับปัญหาที่เข้ามาในชีวิตอย่างไร?
Q2  โฮเชยา 4:6 เขียนไว้ว่า “ประชากรของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้ เพราะเจ้าปฏิเสธไม่รับความรู้ เราก็ปฏิเสธเจ้าไม่ให้รับเป็นปุโรหิตของเรา เพราะเจ้าหลงลืมพระบัญญัติแห่งพระเจ้าของเจ้า เราก็จะลืมพงศ์พันธุ์ของเจ้าเสียด้วย” ถึงเวลาหรือยังที่คุณจะฟังเสียงของพระเจ้าให้ชัดเจน เพื่อคุณจะสามารถตัดสินใจในทุกๆ เรื่องของชีวิตได้อย่างถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้า และไม่ต้องถูกทำลาย

6 เพราะฉะนั้น ขอให้ธรรมิกชนทุกคนอธิษฐานต่อพระองค์ ในเวลาที่จะพบพระองค์ได้ ในเวลาน้ำท่วมมาก น้ำจะไม่มาถึงคนนั้น
7 พระองค์ทรงเป็นที่ซ่อนของข้าพระองค์ พระองค์ทรงสงวนข้าพระองค์ไว้จากความยากลำบากพระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์ไว้ด้วยเพลงฉลองการช่วยกู้

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า “ธรรมิกชน” “อธิษฐาน” “ในเวลาที่จะพบพระองค์ได้” “ในเวลาน้ำท่วมมาก” “เป็นที่ซ่อน” “สงวนข้าพระองค์ไว้” “ล้อมข้าพระองค์” และ “การช่วยกู้” คำเหล่านี้ช่วยให้คุณเห็นถึงฤทธิอำนาจของคำอธิษฐานอย่างไร?
Q2  ข้อพระคัมภีร์ในยากอบ 5:16ข. ที่ว่า “คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล” จะเป็นจริงในชีวิตของคุณได้อย่างไร เพราะตัวคุณเองก็เป็น “ธรรมิกชน” เป็น “ผู้ชอบธรรม” เช่นกัน?

3 เมื่อข้าพระองค์ไม่แจ้งบาปของข้าพระองค์ ร่างกายของข้าพระองค์ก็ร่วงโรยไป โดยการคร่ำครวญวันยังค่ำของข้าพระองค์
4 พระหัตถ์ของพระองค์หนักอยู่บนข้าพระองค์ทั้งวันทั้งคืน กำลังของข้าพระองค์ก็เหี่ยวแห้งไปอย่างความร้อนในหน้าแล้ง
5 ข้าพระองค์สารภาพบาปของข้าพระองค์ต่อพระองค์ และข้าพระองค์มิได้ซ่อนบาปผิดของข้าพระองค์ไว้ ข้าพระองค์ทูลว่า
“ข้าพระองค์จะสารภาพการละเมิดของข้าพระองค์ต่อพระเจ้า” แล้วพระองค์ทรงยกโทษบาปของข้าพระองค์

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า “ไม่แจ้งบาป” “ร่วงโรย” “การคร่ำครวญ” “หนักอยู่บนข้าพระองค์” “ทั้งกลางวันกลางคืน” “เหี่ยวแห้ง” และ “หน้าแล้ง” คำเหล่านี้ช่วยให้คุณเข้าใจข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย” (โรม 6:23) มากขึ้นอย่างไร?
Q2  พระเยซูทรงจ่ายค่าจ้างของ “ความบาปของคุณ” ด้วย “ความตายของพระองค์” ถึงเวลาหรือยังที่คุณจะสารภาพความบาปของคุณกับพระองค์ อ่าน 1 ยอห์น 1:9-10 และใช้เวลานี้สำหรับการอธิษฐาน

1 บุคคลผู้ซึ่งได้รับอภัยการละเมิดแล้วก็เป็นสุข คือผู้ทรงกลบเกลื่อนบาปให้นั้น
2 บุคคลซึ่งพระเจ้ามิได้ทรงถือโทษก็เป็นสุข คือผู้ที่ไม่มีการหลอกลวงในใจของเขา

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า“บุคคลใด” “พระเจ้า” “รับอภัยการละเมิด” “มิได้ทรงถือโทษ” “กลบเกลื่อนบาป” “ไม่มีการหลอกลวง” และ“เป็นสุข” คำเหล่านี้ช่วยให้คุณเห็นขั้นตอนในการ“มีชีวิตที่มีความสุข” อย่างไร? และ “ใคร” คือผู้ที่สามารถประทานความสุขให้กับเราได้?
Q2  ชีวิตของคุณที่ไม่มีความสุขเป็นเพราะคุณยังมีบาปบางอย่างที่คุณยัง “กลบเกลื่อนอยู่” หรือ คุณหลอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไรหรอก บาปเล็กๆ น้อย พระเจ้าไม่ถือสาอะไรหรอก” หรือเปล่า?

3220/5214