พระเยซูมีโอกาสได้กลับมาพบชายตาบอดแต่กำเนิดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในการเจอกันครั้งนี้ พระเยซูทรงฉวยโอกาสที่จะสอนบทเรียนเกี่ยวกับชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณผ่านการมองเห็นของชายตาบอดคนนี้

Q1  พระเยซูตรัสว่า เราเข้ามาในโลกเพื่อแก่การพิพากษา เพื่อให้คนทั้งหลายที่มองไม่เห็นกลับเห็นได้ และคนที่มองเห็นกลับตาบอด” “คนที่มองไม่เห็น” หมายถึงใคร? (ดูข้อ 36, 37, 38 ประกอบ) “คนที่มองเห็น” หมายถึงใคร? (ดูข้อ 40, 41 ประกอบ)
Q2  คุณมีส่วนใดในชีวิตที่เป็น “ความมืดบอดฝ่ายจิตวิญญาณ” หลงเหลืออยู่บ้าง จงไว้วางใจในพระเยซู อธิษฐานมอบสิ่งนั้นไว้กับพระองค์ ขอพระองค์ประทานความสว่างฝ่ายจิตวิญญาณเหนือชีวิตของคุณ

การรักษาชายตาบอดตั้งแต่กำเนิดเป็นสิ่งที่ดี แต่ติดปัญหาที่ว่า พระเยซูทรงกระทำการนี้ในวันสะบาโต ที่เป็นวันต้องห้าม ไม่ให้กระทำการงานใดๆ รวมถึงการรักษาโรค ทำให้ฟาริสีเข้ามาตรวจสอบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการไต่สวนอย่างละเอียดทั้งตัวชายที่ตาบอด และพ่อแม่ของชายตาบอด ซึ่งฟาริสีพยายามที่จะชี้นำ และบอกว่า พระเยซูทรงเป็น “คนบาป” เพราะทำผิดกฎวันสะบาโต (ข้อ 16, 24, 28, 34 ประกอบ)

Q1  ชายตายบอดที่ได้รับการรักษา และพ่อแม่ของเขา ไม่ได้มองว่า พระเยซูทรงเป็น “คนบาป” เหมือนกับฟาริสี แต่พวกเขามองว่า พระองค์คือใคร? (ดูข้อ 17, 22, 30, 31, 32, 33)
Q2  มีคนจำนวนมากในสังคมที่ไม่ชอบคริสเตียน ไม่เชื่อพระเจ้า ไม่อยากฟังเรื่องราวของพระเยซู ในฐานะที่คุณเป็นคนที่ได้รับการไถ่จากพระเยซู ได้รับความรอดเป็นมรดก คุณควรจะเตรียมตัวอย่างไรสำหรับการตรวจสอบ / การท้าทาย / การข่มเหง ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณ เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับชายตาบอดและครอบครัว?

หลังจากที่พระเยซูต้องหลบหนีจากการพยายามฆ่าจากพวกยิว พระองค์ทรงมีโอกาสได้พบกับชายคนหนึ่งซึ่งตาบอดมาตั้งแต่กำเนิด และสาวกของพระองค์มีความสงสัย จึงถามพระเยซูว่า
“พระอาจารย์เจ้าข้า ใครได้ทำผิดบาป ชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด”
ซึ่งพระองค์ก็ตอบว่า “มิใช่ว่าชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขาได้ทำบาป แต่เขาเกิดมาตาบอด เพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา”

Q1  “เพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏ” ที่พระเยซูพูดถึง หมายความว่าอย่างไร? (ดูข้อ 4, 5, 10, 11 ประกอบ)
Q2  อะไรคือ “พระราชกิจของพระเจ้า” ที่ปรากฏในชีวิตของคุณที่สามารถให้ผู้อื่นมองเห็นได้?

แม้พระเยซูจะพยายามอธิบายว่า พระองค์คือผู้ใด แต่ก็ดูเหมือนว่า ผู้คนจะไม่เข้าใจ และพยายามที่จะจับผิดพระเยซูในทุกๆ เรื่อง แม้แต่การกล่าวหาว่า พระเยซูพูด และกระทำการอัศจรรย์ทุกอย่างโดยอำนาจของผี ไม่ใช่อำนาจของพระเจ้าอย่างที่พระเยซูกล่าวอ้างมาตลอด และยิ่งพระเยซูพูดว่า “ใครที่กระทำตามคำสอนของพระองค์ จะไม่ตาย” (ข้อ 51) ยิ่งเป็นช่องทางให้พวกยิวใช้เป็นข้ออ้างในการจะกำจัดพระองค์

Q1  พวกยิวบอกว่า คำสอนของพระองค์ที่ว่า ทุกคนจะไม่ตาย เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และยกเหตุผลใดมาหักล้าง? (ดูข้อ 53 ประกอบ) พระเยซูตอบโต้กลับไปอย่างไร และผลที่ได้รับคือ? (ดูข้อ 55, 56, 58, 59 ประกอบ)
Q2  คุณมีเหตุผลอะไรที่ทำให้คุณมีความมั่นใจในสิ่งที่พระเยซูพูดที่ว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดประพฤติตามคำของเรา ผู้นั้นจะไม่ประสบความตายเลย”?

พระเยซูหันกลับมาพูดคุยกับคนที่เชื่อและไว้วางใจในพระองค์ โดยบอกว่า การติดตามพระองค์ การทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงสอน จะให้ค้นพบกับ “สัจจะ” (ความจริง ความกระจ่าง) ซึ่งเป็นความจริงที่จะปลดปล่อยให้พวกเขาเป็นไท จากความผิดบาป (ข้อ 34) และจากการเป็นลูกของมารซาตาน (38, 44 ประกอบ) มีฐานะใหม่เป็นลูกของพระเจ้า (ข้อ 42)

Q1  ลักษณะของ “มารซาตาน” และ “ลูกของมารซาตาน” เป็นอย่างไร? (ดูข้อ 34, 37, 40, 44, 47 ประกอบ)
Q2  วันนี้คุณดำเนินชีวิตในฐานะลูกของใครระหว่าง “ลูกของพระเจ้า” หรือ “ลูกของมารซาตาน”?