วันพุธที่ 10 ธันวาคม โรม 15:14-21 “ประกาศ”
เปาโลย้อนกลับมาพูดอย่างตรงไปตรงมา ถึงสิ่งที่เป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ในใจของท่านนั้นคือ “การประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์” เปาโลเตือนความจำพี่น้องที่กรุงโรมให้คิดถึง ข่าวประเสริฐที่พวกเขาได้รับนั้น เป็นผลมาจากที่เปาโลประกาศเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ และได้กระทำการอัศจรรย์ในพระนามของพระองค์ เปาโลกำลังบอกว่า การได้รับความรอดไม่ใช่จุดสิ้นสุดของพันธกิจ แต่เป็นการเริ่มต้นของพันธกิจ
Q1 คุณคิดว่า อะไรทำให้เปาโลมีจิตใจที่อยากจะประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์อยู่เสมอไม่ขาด? (ดูข้อ 16, 18, 20, 21 ประกอบ)
Q2 “คนที่ไม่เคยได้รับคำบอกเล่าเรื่องพระองค์ก็จะได้เห็น และคนที่ไม่เคยได้ฟังจะได้เข้าใจ” ประโยคนี้เตือนสติคุณให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐอย่างไร?
วันอังคารที่ 9 ธันวาคม โรม 15:1-13 “ทำดีต่อเพื่อนบ้าน”
เปาโลยังคงอยู่ในเรื่อง การทำดีต่อเพื่อนบ้าน และการเป็นที่พึงพอใจของเพื่อนบ้าน เพื่อชีวิตของพวกเขาได้รับการเสริมสร้าง พัฒนาและเติบโตขึ้น (ข้อ 2) ในขณะเดียวกันพระเจ้าได้รับการสรรเสริญ (ข้อ 7, 9-12)
Q1 ชีวิตของผู้ที่เชื่อจะได้รับการเสริมสร้าง พัฒนาและเติบโตขึ้นในด้านใดบ้าง? (ดูข้อ 4-6 ประกอบ) และพระเจ้าจะได้รับการสรรเสริญในด้านใดบ้าง? (ดูข้อ 8, 9, 12, 13 ประกอบ)
Q2 พระนามของพระเจ้าได้รับการสรรเสริญจากปากของคนที่เป็นเพื่อนบ้าน ผ่านชีวิตของคุณอย่างไรบ้าง?
วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม โรม 14:13-23 “หินสะดุด”
เปาโลเป็นคนที่มองอะไรลึกซึ้ง เขามองเห็นว่า การกล่าวโทษซึ่งกันและกัน ไม่เพียงแต่จะทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ตัวของผู้ที่กล่าวโทษกลับกลายเป็น “หินสะดุด” ที่ทำให้ผู้ถูกกล่าวโทษ คิดในใจว่า ถ้าต้องเติบโตขึ้นในความเชื่อ แล้วมีชีวิตที่ทำร้ายคนอื่นแบบนี้ ฉันขอไม่เติบโตเสียดีกว่า ในขณะเดียวกันผู้ที่กล่าวโทษคนอื่น เมื่อไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงจากชีวิตของผู้ที่ถูกกล่าวโทษ ก็จะกล่าวโทษมากขึ้น จนทำให้ตนเองเป็น “หินสะดุดที่ก้อนโตมากขึ้น”
Q1 เปาโลได้ให้หลักการอย่างไร ที่จะไม่เป็น “หินสะดุด” ให้กับผู้อื่น? (ดูข้อ 13,16, 19, 22 ประกอบ)
Q2 “ฉะนั้นอย่าให้สิ่งที่ดีสำหรับท่าน เป็นข้อตำหนิติเตียนของผู้อื่นได้เลย” ช่วยลดขนาดการเป็นหินสะดุดในชีวิตของคุณให้น้อยลงได้อย่างไร?
วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม โรม 14:1-12 “การกล่าวโทษ”
เปาโลกลับมาพูดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตกับพี่น้องในคริสตจักรอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของความแตกต่างกันในด้านพื้นฐานที่มาในความเชื่อ ก่อนที่จะมาเชื่อในพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้ที่เชื่อ ไม่ว่าจะเป็นคนยิว หรือคนต่างชาติ เพราะปัญหาที่เปาโลยกขึ้นมาคือ เรื่องอาหารการกิน เช่น การกินเนื้อสัตว์ที่เป็นมลทินในพระคัมภีร์เดิม การให้ความสำคัญกับวันต่างๆ ตามประเพณีเดิม เช่น วันสะบาโต จะต้องไม่ทำงาน ซึ่งนำมาซึ่งการกล่าวโทษซึ่งกันและกัน และก่อให้เกิดการแบ่งชนชั้นในคริสตจักร
Q1 เปาโลได้ให้หลักการอย่างน้อย 2 ประการในการจัดการกับปัญหา “การกล่าวโทษ” ซึ่งกันและกัน คือ? (ดูข้อ 7-8, 10-12 ประกอบ)
Q2 “ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า” เตือนสติคุณในการดำเนินชีวิตร่วมกับพี่น้องที่อาจจะมีความเห็นต่าง และมาจากเบื้องหลังความเชื่อที่ต่างจากคุณในคริสตจักรอย่างไร?
วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม โรม 13:11-14 การอยู่ร่วมกับผู้อื่น V – ดำเนินชีวิตในความสว่าง
การดำเนินชีวิตอย่างสงบสุขในสังคม ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องยอมหรือทำตามทุกอย่างเหมือนคนอื่น จนไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ ในอีกด้านหนึ่งเปาโลก็หนุนใจผู้เชื่อทุกคนที่จะดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นลูกของพระเจ้า ให้สมกับเป็นลูกของความสว่างด้วย
Q1 ชีวิตที่ดำเนินในความสว่างที่เปาโลพูดถึง หมายถึงการดำเนินชีวิตแบบไหน? (ดูข้อ 12, 13, 14 ประกอบ)
Q2 อะไรคือตัณหาของเนื้อหนังที่คุณควรจะทิ้งเสีย? และอะไรคือ การประดับกายด้วยพระเยซูคริสต์ที่คุณควรจะมีในชีวิต?