เฝ้าเดี่ยว วันจันทร์ 4 เม.ย. เอเสเคียล 14:1-11
พวกผู้ใหญ่บางคนไปหาเอเสเคียล เพื่อดูว่ามีคำแนะนำให้พวกเขาหรือไม่ แต่พระเจ้าบอกเอเสเคียลว่า คนเหล่านี้ปากบอกว่าเชื่อพระเจ้า แต่จิตใจห่างไกลจากพระองค์ พวกเขาเลื่อมใสพระบาบิโลน ซึ่งพระเจ้าเองก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า พวกเขาเป็นประชากรของพระองค์และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว (ข้อ 11) ลองทบทวนความเชื่อของคุณ โดยการตอบคำถามว่า คุณคิดอย่างไรต่อคำสอนในสังคมที่ว่า “ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่”? คำสอนนี้ขัดกับหลักคำสอนในพระคัมภีร์ตอนนี้อย่างไร?
เฝ้าเดี่ยว วันอาทิตย์ 3 เม.ย. เอเสเคียล 13:1-23
พระคัมภีร์ตอนนี้บรรยายถึงผู้เผยพระวจนะเท็จ ไสยศาสตร์ หมอดู และคำสอนผิดมากมายที่หลอกลวงประชากรของพระเจ้าให้มีความหวังแบบลมๆ แล้งๆ ปัจจุบันนี้มีแนวความคิดด้านวัตถุนิยม และคำสอนผิดมากมาย มีพระใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย และผู้คนมากมายหลงติดตามเพราะต้องการความหวังในชีวิต ใช้เวลานี้อธิษฐานขอให้พระเจ้าหันใจคนไทยให้หิวกระหายหาพระองค์ เหมือนกวางกระหายน้ำ และขอให้คริสเตียนไทย คริสตจักรไทย รวมทั้งตัวคุณเองตระหนักถึงความจริงในเรื่องนี้ ดำเนินชีวิตเป็นเกลือแสงสว่างของสังคม ให้ทุกคนรู้ว่า “พระเยซูคริสต์ทรงเป็นความหวังของพวกเขา”
เฝ้าเดี่ยว วันเสาร์ 2 เม.ย. เอเสเคียล 12:21-28
มีบางคนสงสัยและตำหนิเอเสเคียลว่า เวลาผ่านไปนานแล้วทำไมคำพยากรณ์ของเอเสเคียลไม่เป็นจริงเสียที (21-22) แต่พระเจ้าได้ยืนยันผ่านเอเสเคียลว่า นิมิตและคำพยากรณ์นั้นใกล้จะมาถึงแล้ว ส่วนคำทำนายปลอมที่บอกว่าเชลยจะได้กลับไปเยรูซาเล็มเร็วๆ นี้
เฝ้าเดี่ยว วันศุกร์ 1 เม.ย. เอเสเคียล 12:1-20
เอเสเคียลได้ประกาศว่าเยรูซาเล็มจะแตก แต่เชลยยูดาห์ที่บาบิโลนไม่เชื่อ เพราะเขาหวังจะได้กลับบ้านเมืองในไม่ช้า พระเจ้าจึงให้เอเสเคียลแสดงภาพเพื่อย้ำว่าพวกเขาไม่ได้กลับเยรูซาเล็มในเร็วๆนี้แน่นอน แต่ชาวกรุงเยรูซาเล็มต่างหากจะมาอยู่กับเขาที่บาบิโลน
เฝ้าเดี่ยว วันพฤหัสบดี 31 มี.ค. เอเสเคียล 11:14-25
ในการลงโทษของพระเจ้า ยังมีความหวังและทางออกเสมอ พระเจ้าสัญญาว่า วันหนึ่งชนชาติที่แตกสลายจะถูกรวบรวมกับมาเป็นชนชาติอีกครั้งหนึ่ง