“แม้เราจะได้กล่าวแก่คนชอบธรรมว่าเขาจะมีชีวิตอยู่แน่ ถ้าเขายังวางใจในความชอบธรรมของเขาและกระทำความบาปชั่ว การกระทำทั้งหลายที่ชอบธรรมของเขาย่อมไม่อยู่ในความทรงจำอีกเลย แต่เขาจะต้องตายเพราะความบาปชั่วซึ่งเขาได้กระทำไว้” (13) ขอให้พระคัมภีร์ตอนนี้หนุนใจคุณในการหันหลังให้กับความผิดบาป และกลับมาหาพระเจ้าก่อนที่จะสายเกินไป

ฟาโรห์และอียิปต์ไม่เพียงแต่จะได้เห็นจุดจบของพวกเขา แต่ยังได้เห็นจุดจบของเอโดม ไซดอน อัสซีเรีย เอลาม เมเชคและทูบัล และอียิปต์พยายามที่จะบรรเทาความทุกข์ให้เบาลง โดยปลอบใจตนเองว่าไม่ใช่ตนเท่านั้นที่พบจุดจบอันน่าอับอาย ประเทศอื่นๆ ก็ถูกลงโทษหนักด้วย (31) 

Read more

พระเจ้าเปรียบเทียบประเทศอียิปต์และกษัตริย์ฟาโรห์เหมือนต้นสนสีดาห์ที่ “งดงามและสูงใหญ่” กว่าต้นไม้ใดในโลกนี้ แต่ความงดงามและความสูงใหญ่ กลับนำมาซึ่ง “ความเย่อหยิ่ง” (10) และกระทำใน “สิ่งที่ชั่วร้าย” (11) ลองทบทวนดูว่า คุณได้ใช้ความสามารถ สติปัญญา หรือทรัพย์สมบัติที่คุณมีในทางที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องอย่างไร? คุณใช้เพื่อเกียรติยศของตัวคุณเอง หรือใช้เพื่อผู้อื่น และเพื่อถวายเกียรติแด่พระนามของพระเจ้า?

ดูเหมือนว่า สงครามระหว่างบาบิโลนและอียิปต์ เป็นเพียงการสู้รบของสองประเทศ เป็นเรื่องของการขยายอำนาจ การไล่ล่าอาณานิคม แต่ในพระคัมภีร์ตอนนี้ได้บอกความจริงกับเราว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุม และอนุญาตให้ทุกอย่างเกิดขึ้น เพื่อทุกคนจะรู้ว่า “พระองค์คือพระเจ้า” ใช้เวลานี้ทบทวนถึงชีวิตของคุณที่ผ่านมาในอดีต ทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นนั้น พระเจ้าทรงมีส่วนในเหตุการณ์นั้นอย่างไร?

ในเวลาที่เอเสเคียลกล่าวพระวจนะเรื่องอียิปต์ กองทัพบาบิโลนกำลังปิดล้อมเยรูซาเล็ม (ดู 2 พกษ.25:1-2) กษัตริย์เศเดคียาห์ของยูดาห์ขอให้อียิปต์มาช่วยต้านบาบิโลน เอเสเคียลรู้ว่าการพึ่งอียิปต์นั้นจะไม่สำเร็จ และทำให้บาบิโลนโกรธจะลงโทษยูดาห์หนักขึ้น

Read more

8230/8529