สำนวน “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” อาจจะใช้ไม่ได้กับกษัตริย์อาสา เนื่องจากถึงแม้ว่า คุณปู่ คุณพ่อ คุณแม่ จะหันหลังให้กับพระเจ้า กระทำในสิ่งที่ชั่วร้าย แต่กษัตริย์อาสาเลือกที่จะกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง กระทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย

Q1  กษัตริย์อาสาได้กระทำสิ่งใดบ้างที่เป็นสิ่งที่ดีและชอบในสายพระเนตรของพระเจ้า? (ดูข้อ 3-6 ประกอบ)
Q2  ในสดุดี 14:1-2กล่าวไว้ว่า“1 คนโง่รำพึงอยู่ในใจของตนว่า “ไม่มีพระเจ้า” เขาทั้งหลายก็เลวทรามลงกระทำกิจการที่น่าเกลียดน่าชังไม่มีสักคนเดียวที่ทำดี 2 พระเจ้าทรงมองลงมาจากฟ้าสวรรค์ดูลูกหลานของมนุษย์ว่าจะมีคนใดบ้างที่ฉลาดที่เสาะแสวงหาพระเจ้า” คุณจะดำเนินชีวิตให้ฉลาดเหมือนกับกษัตริย์อาสาได้อย่างไร?

แม้ว่าในหนังสือพงศ์กษัตริย์บันทึกชื่อกษัตริย์ว่า “อาบียัม” ในขณะที่หนังสือพงศาวดารบันทึกว่า “อาบียาห์” แต่ก็เป็นกษัตริย์องค์เดียวกัน และเป็นพ่อของกษัตริย์อาสา เราพบว่า ในสมัยของกษัตริย์อาบียาห์เกิดการสู้รบกับกษัตริย์เยโรโบอัมของอิสราเอลซึ่งเป็นอาณาจักรทางเหนืออยู่ตลอดรัชกาลของพระองค์ แต่สุดท้ายกษัตริย์อาบียาห์ก็เป็นฝ่ายชนะ และใน 2 พงศาวดาร 13:21 บันทึกว่า อาบียาห์ก็มีอำนาจยิ่งขึ้น และมีมเหสีถึง14 องค์ มีโอรส 22 องค์ และธิดา 16 องค์

Q1  แม้จะดูเหมือนว่ากษัตริย์อาบียาห์ประสบความสำเร็จในด้านการปกครองประเทศ แต่พระคัมภีร์ได้บันทึกเกี่ยวกับกษัตริย์อาบียาห์อย่างไรบ้างในด้านชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ? (ดูข้อ 2-3 ประกอบ)
Q2  ลองสำรวจชีวิตของคุณว่า วันนี้คุณแสวงหาความสำเร็จในชีวิตของคุณไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน ความร่ำรวย ชื่อเสียง เกียรติยศ อำนาจ ครอบครัว จนคุณลืมที่จะแสวงหาความสำเร็จฝ่ายจิตวิญญาณหรือไม่?

กษัตริย์อาสาเป็นบุตรของกษัตริย์อาบียาห์ กับนางมาอาคาห์ และเป็นหลานของกษัตริย์เรโหโบอัมผู้ซึ่งเป็นบุตรของกษัตริย์ซาโลมอน แม้ว่าพระเจ้าจะทรงแบ่งแยกอาณาจักรในสมัยของกษัตริย์เรโหโบอัม แต่ก็ไม่ได้ทำให้พระองค์หันกลับมาติดตามพระเจ้า ในทางตรงกันข้ามพระองค์กลับหันหลังให้กับพระเจ้า และกระทำในสิ่งที่ชั่วร้าย (ข้อ 14)

Q1  อะไรคือสาเหตุที่ทำให้กษัตริย์เรโหโบอัมหันหลังให้กับพระเจ้า และผลที่พระองค์ได้รับคืออะไร? (ดูข้อ 1, 8 ประกอบ)
Q2  แม้พระเจ้าจะลงโทษกษัตริย์เรโหโบอัมและอิสราเอล แต่เมื่อพวกเขาถ่อมใจลง พระองค์ก็ยังสำแดงความรักต่อพวกเขา (ข้อ 7, 12) ความจริงในเรื่องนี้หนุนใจคุณอย่างไรในยามที่คุณทำในสิ่งที่ผิด และหลงจากทางของพระเจ้า

ในมุมมองของคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า การแต่งงานเป็นแค่ข้อตกลง เป็นความพึงพอใจระหว่างคนสองคน ดังนั้นถ้าเมื่อไรที่หมดความพึงพอใจ หรือ ไม่เป็นไปตามข้อตกลง การหย่าร้างก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด  แต่เปาโลให้มุมมองใหม่จากพระคัมภีร์ว่า  พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง  พระเจ้าทรงผูกพันชายและหญิงเข้าด้วยกัน  พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่สถาปนาชีวิตสามีภรรยา ชีวิตครอบครัว  ดังนั้นการหย่าร้างจึงไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าต้องการ  การหย่าร้างจึงไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้า แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในคริสตจักรที่โครินธ์คือ  มีคู่สมรสบางคนไม่เชื่อพระเจ้า และเกิดมีปัญหาครอบครัวขึ้น คำถามของคริสตจักรในเวลานั้นคือ หย่าได้หรือไม่?

Q1  เราพบว่า เปาโลไม่ได้สนับสนุนการหย่าร้างเลย (ข้อ 12, 13) แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อยกเว้น ข้อยกเว้นนั้นคืออะไร?  (ดูข้อ 15 ประกอบ)
Q2  ถ้าคุณกำลังมีปัญหาครอบครัว อ่านข้อพระคัมภีร์ในข้อ 16  สัก2-3 รอบ และอธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเจ้าในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น  ถ้าคุณไม่มีปัญหาใด  ๆ ในครอบครัว  อ่านพระคัมภีร์ข้อ 16 สัก 2-3 รอบเช่นกัน  และอธิษฐานขอพระเจ้าเพิ่มเติมสติปัญญาให้คุณดูแลครอบครัวให้ดี ไม่ให้เกิดปัญหา
หมายเหตุ  สามารถ อ่าน 2 โครินธ์ 7:25-39  เพิ่มเติม

เราไม่ทราบแน่ชัดว่า เปาโลแต่งงานหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ตามธรรมเนียมแล้ว อาจารย์ชาวยิวที่เคร่งศาสนามักจะแต่งงานเมื่ออายุ 18 ปี แต่ในเวลานี้เรารู้ว่า เปาโลอยู่คนเดียว ซึ่งอาจเป็นเพราะภรรยาเสียชีวิต หรือหย่าร้าง หรือมีการตกลงกัน ทำให้เปาโลกล่าวในข้อ 8 ว่า การที่พี่น้องคนอื่นจะอยู่เหมือนข้าพเจ้าก็ดีแล้ว คือ อยู่เป็นโสด ละเว้นจากเรื่องเพศ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานั้นคือ ถ้าคนที่แต่งงานแล้ว แต่คู่สมรสเสียชีวิต ควรจะแต่งงานใหม่หรือไม่

Q1  เปาโลได้ให้หลักการอย่างไรสำหรับผู้ที่คู่สมรสเสียชีวิต แล้วต้องการจะแต่งงานใหม่?
Q2  พระเจ้าไม่ได้พอพระทัย “ชีวิตแต่งงาน” มากกว่า “ชีวิตเป็นโสด” หรือ พอพระทัย “ชีวิตเป็นโสด” มากกว่า “ชีวิตแต่งงาน” แต่พระองค์ทรงพอพระทัยชีวิตที่บริสุทธิ์ ใช้เวลาอธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตที่บริสุทธิ์ของคุณไม่ว่าจะเป็นชีวิตแต่งงาน หรือ ชีวิตเป็นโสด
หมายเหตุ  สามารถ อ่าน 2 โครินธ์ 7:25-39 เพิ่มเติม

8235/9545