บทที่ 1-8 เปาโลได้พยายามพูดถึงหลักคำสอนของข่าวประเสริฐกับผู้ที่เชื่อในกรุงโรม บทที่ 9 เปาโลเปลี่ยนมาพูดถึงคนยิวในฐานะประชากรของพระเจ้าว่า เป็นเรื่องจริง แต่มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า เพราะคนยิวส่วนใหญ่คิดว่า แค่เกิดเป็นชนชาติอิสราเอล ก็จะได้รับความรอดโดยอัตโนมัติ แต่ในเวลานั้นมีคนยิวบางคนมาเชื่อในพระเยซูคริสต์ ทำให้เปาโลต้องพูดเรื่องนี้ เพราะท่านมีความหวังว่า คนยิวทุกคนจะหันกลับมาเชื่อพระเยซูคริสต์ และได้รับความรอด
Q1 เปาโลยกตัวอย่างอะไรที่ชี้ให้เห็นว่า ความรอดไม่ได้มาตามสายเลือด (อิสราเอลแท้) แต่มาตามความเชื่อ ตามวิธีการของพระเจ้า? (ดูข้อ 8, 9, 10, 13 ประกอบ)
Q2 ถ้าคุณเป็นลูกหลานที่เกิดในครอบครัวคริสเตียน แม้ว่าคุณมาโบสถ์ตั้งแต่เด็ก เข้าชั้นเรียนรวีฯ แต่ยังไม่ได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ด้วยตัวของคุณเอง นั้นหมายความว่า คุณก็ยังไม่รอด ถึงเวลาหรือยังที่จะตัดสินใจด้วยตัวของคุณเอง? ถ้าคุณตัดสินใจต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดแล้ว เป็น คริสเตียนมาเป็นเวลานาน ลองทบทวนชีวิตของคุณว่า จุดศูนย์กลางในความมั่นใจในความรอดของคุณ ยังเป็นพระเยซูคริสต์อยู่หรือเปล่า หรือความมั่นใจในความรอดของคุณอยู่ที่ การมาโบสถ์เป็นประจำ การถวายทรัพย์ การรับใช้ การรับบัพติสมา การรับมหาสนิท?
หมายเหตุ :- เอซาวเป็นบุตรหัวปีและควรได้รับมรดกทั้งหมดและเป็นต้นตระกูลของชนชาติอิสราเอล แต่ยาโคบผู้เป็นน้องกลับกลายเป็นผู้รับพร และเป็นต้นตระกูลของชนชาติอิสราเอล